ทำไม #TheVoiceTH เมื่อวาน เสียงไม่ดีเท่าที่ผ่านมา? ที่นี่มีคำตอบ

สาเหตคือ ที่ผ่านมาในรอบ Blind audition และ Battle นั้น ทำเสียงนักร้องดีเกินไปจากรายการอื่นๆครับ แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักจุดประสงค์ของ TheVoice กันก่อนครับ นี่เป็นสาเหตที่รายการนี้ที่ผ่านมาเสียงนักร้องโดดเด่นกว่ารายการอื่นๆ 🙂

The voice thailand

ทำไมที่ผ่านมา นักร้องใน TheVoice ถึงร้องเพลงได้ดูดีกว่ารายการอื่นๆ?

1. ในเวที TheVoice มีนักร้องที่เป็นมืออาชีพหลายคน ต่างจากรายการอื่นๆสิ้นเชิง

โดยปกติแล้วมืออาชีพเขาจะไม่ค่อยขึ้นเวทีประกวดกันครับ นั่นเป็นจริตหรืออาจเป็นจริยธรรมของมืออาชีพนั่นเอง ลองเปรียบเทียบกับนักวาดรูปมืออาชีพ เขาก็จะไม่ส่งภาพไปประกวดกันนะ ดังนั้นในเวที KPN,AF,TheStar จะแทบไม่มีมืออาชีพเลย ยิ่งเป็น reality Show ยิ่งเสียเวลาทำมาหากินของเขาครับ ถ้าไม่ชนะล่ะก็ซวยเลยเพราะเขามีต้นทุนอาชีพของเขาอยู่แล้ว

แต่เวที TheVoice ไม่เหมือนกับรายการประกวดความสามารถในการร้องเพลงทั่วไป แต่เหมือนกับการโชว์ของเพิ่อดึงความสนใจคน ซึ่งน่าสนุกและดูเปิดกว้างสำหรับมืออาชีพ และตัวรายการมีการถ่ายทำแบบรวดเดียวจบในรอบ Blind Audition และ Battle ดังนั้นจึงไม่เสียเวลามากสำหรับมืออาชีพ นอกจากนั้นทีมงาน TheVoice เองยังมีการสืบค้น และชักชวนนักร้องหลายคนที่มีความสามารถสูงให้เข้ามาทดลองร่วมส่งผลงาน รวมถึงค้นหานักร้องที่น่าจะมีความสามารถใน YouTube ก่อนด้วยเช่นกัน เพื่อความแน่ใจว่ารายการจะมีผู้มีความสามารถที่แท้จริงมาร่วมงานครับ

the-voice-audition

2. ลักษณะรายการทั้ง Blind Audion และ Battles เป็นโชว์ที่สั้นมาก

ด้วยความเข้าใจของพฤติกรรมมนุษย์ในยุคนี้ คนเรายากที่จะดูการร้องเพลงสดได้เต็มเพลง (3-4 นาที) ถ้าเป็นรายการทีวีครับ ด้วยความเคยชินจาก Youtube ทำให้เรามีความอดทนดูอะไรที่สนุกๆได้เพียง 1 นาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นคลิปส่วนใหญ่ของ YouTube ทั้งหมด

TheVoice เข้าใจปัญหานี้ จึงให้นักร้องทุกคนทำโชว์ของตัวเองออกมาสั้นมาก เพลง 1 เพลงถูกหั่นออกมาเหลือเพียงนาทีเดียวบวกลบนิดหน่อย นักร้องมีเวลาน้อยจึง”ปล่อยของ”ของตัวเองกันเต็มที่เพื่อโชว์พลังและเทคนิคของตัวเอง ด้วยระยะเวลาที่สั้น คนดูก็ไม่ล้าหูจนเกินไปครับ ในชีวิตจริงถ้านักร้องร้องใช้เทคนิกและพาวเวอร์ขนาดนั้นตลอด 4 นาทีเต็มเพลงรับรองเราทนฟังไม่ไหวเปลี่ยนช่องแน่ๆ

พอมาถึงรอบ Live Round อันนี้รายการได้ติดกระแสไปแล้ว และผู้ร้องเพลงก็เป็นที่รู้จักแล้ว ดังนั้นจึงเป็นโชว์เต็มเพลงตามปกติครับ แต่ก็เห็นได้ว่าอัตราความว้าว ลดลงจากรอบแรกๆมาก

ทีมเบื้องหลัง TheVoice ทำงานกันหนักมาก พี่ตี้ทำ Backing track สำหรับซ้อมหลายเดือนครับ
ทีมเบื้องหลัง TheVoice ทำงานกันหนักมาก พี่ตี้ทำ Backing track สำหรับซ้อมหลายเดือนครับ

3. The Voice ในรอบ Blind Audition และ Battle นั้นไม่ใช่รายการสด

มีหลายคนพูดใน Social Network ว่า “TheVoice ออกมา ฆ่ารายการอื่นหมดเลย” เพราะเสียงร้องของนักร้องดีมากจนหลายคนขนลุก สำหรับสาเหตก็คือ

ประการแรก อย่าลืมว่า The Voice ในรอบแรกๆนั้นไม่ใช่รายการสด รายการถูกถ่ายใน Studio รวดเดียวหมดและทำเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วสำหรับถ่ายทอดโทรทัศน์ได้หลายอาทิตย์ (โดยที่ทั้งผู้เข้าประกวดและนักดนตรีได้รับการขอร้องให้เก็บผลการคัดเลือกเป็นความลับ) ดังนั้นในเรื่องเสียงจึงมีวิธีคิดในการปรับแต่งที่แตกต่างกันจากรายการอื่นอย่างสิ้นเชิงครับ เสียงนักร้องและเครื่องดนตรีถูกบันทึกแยกกันไว้เป็นแทร็กๆ และนำมาปรับแต่ง”ทีละจุด”ให้เข้ากันได้ทีหลังในตัวเพลง ในขณะรายการสดไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ โดยมากเป็นการปรับแต่งเสียงทีเดียวใช้ทั้งเพลงและไม่สามารถแก้เสียงที่เพี้ยนได้แบบ Realtime ยิ่งจำนวนเครือ่งดนตรีเยอะๆยิ่งยากมากกับการผสมเสียง

ประการที่สอง จุดประสงค์รายการต้องการ”ความว้าว”จากผู้ฟังโดยให้คนฟังนักร้องที่เสียงดีครับ ดังนั้นทางรายการจึงทำทุกวิถีทางเพื่อจะดันเสียงนักร้องที่ดีอยู่แล้ว ให้ดีขึ้นไปอีก ทางรายการก็ยังทำให้เทปของนักร้องที่บันทึกมาบางคน ในขณะที่รายการประกวดร้องเพลงแบบทั่วไปจะยอมให้ข้อบกพร่องของนักร้องออกมาในระหว่างประกวด เพื่อที่กรรมการจะได้คอมเม้นท์ได้ตรงกับสิ่งที่บกพร่อง แต่ TheVoice ไม่มีจุดประสงค์ในการกระทำดังกล่าว

the-voice-battle

แล้วทำไม TheVoice รอบ Live Round เสียงจึงไม่ดีเท่าเดิมอย่างชัดเจน?

คำตอบก็คือ เพราะมันกลายเป็นรายการสด

ความจริงแล้ว Live Round นั้นก็มีคุณภาพเสียงเหมือนรายการประกวดสดรอบชิงทั่วไปนั่นแหละครับ แต่คนฟังเองต่างหากที่ไม่มีความรู้ว่ารอบที่ผ่านมา TheVoice เสียงดีเพราะไม่ใช่รายการสด และมีการปรับแต่งทั้งเสียงและภาพแบบ Post Production อย่างละเอียดเหมือน DVD Concert ทั่วไปที่เราหาซื้อกัน (DVD Concert ขนาดนักร้องร้องผิดยังมาร้องแก้ใหม่ใน Studio ได้เลยครับ) แต่กลับชอบเอาไปเทียบกับรายการอื่นๆที่เป็นรายการประกวดสดกัน

ดังนั้นการร้องเพลงเล่นดนตรีออกรายการสดเป็นอะไรที่ต้อง Safety First สำหรับ Sound Engineer ที่เป็นผู้ Mix เสียงออกมา ของไทยนิยมปรับเสียงนักร้องให้ดังๆเข้าไว้ก่อน เสียงร้องจึงไม่ค่อย Blend กับเสียงดนตรี และในแง่ความถี่เสียงก็ปรับให้ย่านความถี่ห่างกันไว้ก่อน จะได้ไม่ตีกัน ซึ่งเป็นสาเหตที่ทำให้เสียงร้องไม่แน่นเหมือนรอบที่ผ่านมา

น่ารู้เกี่ยวกับการมิกซ์เสียงออกรายการ

โดยปกติแล้ว ซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่เป็น Live Engineer จะมีหน้าที่ผสมเสียงให้เหมาะกับผู้ฟังหลายกลุ่มครับ โดยมีหน้าที่หลักๆสามส่วนดังนี้

A. ซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่ผสมเสียงมอนิเตอร์ให้นักดนตรีและนักร้องได้ยินเสียงจากลำโพงมอนิเตอร์ที่วางอยู่บนพื้นด้านหน้านักดนตรี เมื่อทุกคนได้ยินเสียงที่ตนเองชอบอย่างชัดเจน จะส่งผลถึงความสนุกมั่นใจในการเล่น และนักร้องก็จะร้องไม่เพี้ยนครับ นักร้องจะร้องเพลงได้ดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับคนนี้อย่างมาก

B. ซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่ผสมเสียงเข้าลำโพง PA เพื่อให้คนในห้องส่ง หรือ Concert Hall ได้ฟังกัน ปกติระบบเสียงใน Concert จะรับไดนามิกส์ได้มาก การมิกซ์จึงสามารถเน้นความสนุกในส่วนนี้ได้เต็มที่สำหรับผู้ชมที่อยู่ในห้องส่ง

C. ซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่ผสมเสียงสำหรับ Broadcast เข้าสู่ลำโพงทีวีขนาดเล็กทั่วประเทศ ทั้งหมดของแหล่งเสียงที่เข้าสูทีวีจะถูก Maximize เพิ่งให้เสียงมีความดังอย่างเต็มที่โดยให้ลำโพงไม่คลิป และจะไม่ค่อยมีไดนามิก เพราะลำโพงของทีวีและชุดเครื่องเสียงบ้านๆทั่วไปจะไม่สามารถรับไดนามิกส์ของเสียงได้เท่าไหร่

ปัญหาของไทยในการทำรายการสด

ไทยนิยมให้ Sound Engineer B คือผู้ที่มิกซ์เสียงใน Concert ณ สถานที่จริงเสร็จแล้ว ส่งไลน์เสียงมาออกอากาศด้วย โดยผ่านการปรับแต่งนิดหน่อยและใส่เสียงคนดูครับ ซึ่งความจริงเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องเท่าไหร่ เนีื่องจากการมิกซ์เสียงสำหรับคอนเสิร์ต ณ Venue นั้นๆ และการมิกซ๋เสียงเพื่อออกอากาศ (Broadcast) มี Condition ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

ยกตัวอย่างเช่นซาวส์เอ็นจ์ ณ จุดแสดงคอนเสิร์ตสามารถที่จะปล่อยเสียงเบสย่านต่ำมากๆ(sub-bass) ออกมาได้เพราะมีลำโพงรองรับ แต่ซาวส์เอ็นจ์ Broadcast ต้องตัดความถี่ต่ำออกเนื่องจากลำโพงทีวีและเครื่องเสียงบ้านไม่ Support (แต่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่ม Harmonics ของเสียงเบสขึ้นมาแทน) เพราะฉนั้น ซาวส์เอ็นจิเนียร์ B และ C ควรทำงานแยกกันตั้งแต่แรกครับ

เรื่องการปล่อยสัญญาณเสียง Live ไปให้ทีม OB นี้น้องส้ม @muenue ผู้มีประสบการณ์ในการทำ Live Show และ Post Production ของค่ายเพลงชื่อดังมาเยอะ ได้ให้ความเห็นไว้น่าสนใจตาม Storify ครับ

ประเด็น #TheVoiceTH Live Round

เห็นหลายคนพูดเปรียบเทียบ TheVoice รอบ Live Round ว่าทำไมเสียงต่างจากรอบที่ผ่านๆมาอย่าง Blind Audition กับ Battle ครับ

Storified by patchara · Sun, Nov 11 2012 09:50:06

รายการ #TheVoiceTH เป็นรายการระดับประเทศ .. คุณไม่คิดจะเตรียมความพร้อมเรื่องเสียงสักหน่อยก่อนออกอากาศหรือ?!ดุริยกวีดนตรีสนาม
วันนี้เหมือนระบบเสียงแย่ๆนะ .. #TheVoiceTHชีวิตกู
คนทําซาวส์ในสตูกับออกทีวี ปกติเป็นคนละคนกัน รายการสดจะเสียเปรียบรายการไม่สดในเรื่องการมิกซ์เสียง-realtime คนดู #theVoiceTH จะเริ่มสังเกตละpatchara
หลายคนอาจไม่รู้ความแตกต่างระหว่างการมิกซ์เสียงสดกับไม่สด #theVoiceTH ที่ผ่านมาเป็นรายการ"ไม่สด" ความจริงเอาไปเทียบกับรายการสดไม่ได้เลยครับpatchara
@iPattt ในทางภาพก็ด้วยค่ะ ถึงอาจจะเป็นทีมเดียวกัน แต่ "สด" ยังไงก็เป็นโจทย์ที่ยากกว่า เพราะไม่มีโอกาสไปแก้ไข "ตัดต่อ" ได้เลย #TheVoiceTHSoM
@iPattt @simplywit ver.สั้นๆ รายการทีวีถ่ายทอดสด คนดูในห้องส่ง ไม่เกิน 1000 กับคนทางบ้านจำนวนเท่าไหร่ ควรให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน?SoM
@iPattt @simplywit กล้องวิดีโอ คือ ตา ระบบเสียง คือ หู ของคนทางบ้าน คนในห้องส่งดูแล้วโคตรอิ่มเอิบ แต่คนทางบ้านดูแล้วส่ายหัว ทำไปทำไม?SoM
@iPattt ตอบรอบ blind audition มีการใช้ autotune กันเยอะเลย แต่พอมาเป็นรอบร้องสดแล้ว.. 5555Candle 😀
@simplywit @iPattt ไม่รู้ของงานนี้ แต่ที่เคยเจอมา คือทีมงานที่ทำ live event จนชินมี mind set ผิดๆ ลืมไปว่ากำลังทำ รายการทีวี ไม่ใช่คอนเสิร์ตSoM
@muenue @iPattt ผมเดาว่าเขาให้คนเดียวรับผิดชอบทั้ง 2 mix แหงๆเลย แล้วดีไม่ดีอาจจะปล่อยให้ OB แก้โน่นนี่อีก[simply] : Wit
@simplywit @muenue พี่ตี้บอกว่า เวอร์ชันในห้องส่ง พี่วุฒิ (ขาประจํา loveis) เป็นคนทํา แต่เวอร์ชั่นทีวีไม่แน่ใจใครทําครับ #theVoiceTHpatchara
@iPattt เคยไปดูรายการสด (สดไม่จริง) เค้าอัดเทปไว้ก่อนสักห้านาทีมั้งคะ สดเฉพาะช่วงโหวต ่เตี้ยเหี้ยจน
@bitnpr อันนั้นยังถือว่าสดครับ แต่ #theVoiceTH ที่ผ่านมาทิิ้งเป็นอาทิตย์เลยpatchara
@simplywit @iPattt ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น OB จะรับ line ที่ mix program ทั้งหมดแล้ว มาเพิ่มเสียงคนดูเพื่อออกอากาศเอง เพราะ OB มันไม่สำคัญ!!SoM
@iPattt @simplywit @muenue ในห้องส่งเสียงดีมากครับ :)rockdaworld
@rockdaworld @iPattt @simplywit แต่คนดูทางบ้าน รู้สึกว่า ระบบเสียงดีน้อยกว่าสัปดาห์ที่ผ่านๆมาอย่างชัดเลยค่ะ :)SoM

มอง TheVoice ทางด้านธุรกิจ

TheVoice เป็นโชว์ แต่ไม่ใช่การปั้นศิลปินเหมือน Academy Fantasia หรือ The Star ดังนั้นในด้านธุรกิจ TheVoice เองจะมีปัญหาจากนักร้องที่เข้ามาในรายการไม่ค่อยอยากจะเซ็นสัญญากับรายการ เพราะกลัวเสียเวลาเนื่องจากเขาเป็นมืออาชีพที่มีงานประจำอยู่แล้ว ดังนั้นรายการจะมีนักร้องที่เข้าไปสู่รอบสูงเท่านั้นที่จะยอมเป็น Asset และเป็นศิลปินของรายการครับ พอรู้อย่างงี้ก็ขายของผู้สนับสนุนกันเต็มที่เหมือนกัน 😛 (ลองนึกถึงว่าถ้าคุณเกล และคุณสุเมธ เข้ารอบลึกๆไป พี่เขามีชื่อเสียงอยู่แล้ว ไม่ยอมเซ็นสัญญาแน่ๆครับ)

ในขณะที่นักร้องที่เข้ามาประกวดได้ประโยชน์เต็มที่เพราะรายการดัง แต่ละคนใช้ชื่อรายการต่อท้ายกันอย่าง ตี๋เดอะว้อยซ์ ฟิลม์เดอะว้อยส์ ปุ๊กเดอะว้อยส์ ครับ ตอนนี้เพื่อนๆในกลุ่มนี้งานแน่นกันมาก อย่างคุณตี๋อรรถพลนี่ Saxophone Pub แทบจะระเบิดกันเลยทีเดียว 🙂

ในส่วนของธุรกิจ เนื่องจาก TheVoice เป็นรายการที่ดังแล้วในขณะนี้ เพราะฉนั้นในการจัดครั้งหน้าจะมีปัญหาเรื่องการเก็บความลับของผลการแข่งในรอบ Blind และ Battle เนื่องจากรายการอัดไว้ก่อนและเป็นรายการไม่สดครับ