คุณ mk เอามาแชร์จาก techcrunch ครับ ทำให้ผมเข้าใจเลยว่า application รุ่นใหม่ที่คล้ายกัน ความใช้ง่ายนั้นสำคัญมากกว่าความเจ๋งของ feature ผมเองก็อยากให้เว็บที่ทำในช่วงใหม่ๆนั้นใช้ง่ายๆด้วยเหมือนกัน แต่คนที่จ้างทำเว็บนั้นไม่ค่อยเข้าใจจุดนี้เลยครับว่า “การตัดออกนั้นยากและสำคัญกว่าการใส่เข้าไปเยอะๆ”
friendfeed นั้นอย่างที่ทุกคนเข้าใจก็คือ application ที่ใช้ track เพื่อนของเราว่ามีอะไรอัพเดทบ้างเช่น event หรือ รูป หรือ วีดีโอ หรือ บล็อก ที่มีเทคโนโลยี RSS feed ที่ระบบสามารถดึงเข้ามาได้ คนที่ subscribe เราทุกคนสามารถเห็นสถานะของเราได้ และยังมี innovation service ออกมาอีกหลายตัว ปัจจัยทั้งหลายนั้นดูเหมือนจะทำให้ friendfeed ประสบความสำเร็จทั้งนั้น
แต่ในความเห็นจริงกลับตรงข้าม friendfeed กำลังอยู่ในภาวะคับขันเพราะไม่ค่อยมีคนใช้ทั้งๆที่เป็น coolest application ?!?
การเติบโตของ twitter นั่นเองที่เป็นคุ่แข่งโดยตรงของ friendfeed โดย twitter นั้นมีอัตราการเติบโตของ site สูงถึง 33% ต่อเดือน แทบทุกคนจะมี identity online ของตัวเองเป็น twitter แล้ว แต่ friendfeed นั้นกลับมีอัตราการเติบโตเพียง 6.4% ของ twitter
Twitter นั้นมี service ใหม่น้อยมากเมื่อเทียบกับ friendfeed โดยสิ่งที่เป็นจุดขายใหม่ก็คือระบบ search ที่ดีนั่นเอง ในขณะที่ service ใหม่ๆของ friendfeed นั้นถูก copy โดย facebook ซึ่งทำให้ impact ของ friendfeed ลดลงไปอีก และถ้าเปรียบเทียบกับ twitter ตัว friendfeed นั้นในครั้งแรกที่ใช้ยังมีความซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ทั่วไปมากกว่า twitter ในขณะที่การใช้งานของ twitter น้นง่ายมากคือ การประกาศอะไรก็ได้ที่ไม่เกิน 140 ตัวอักษรให้โลกรู้ ( ที่เป็น 140 ตัวอักษรเพราะว่าอิงกับระบบ sms ที่ใช้งานในโลกที่สเป็คต่ำสุด อ้างอิง @imenn ) และถ้าคุณน่าสนใจ คนก็จะติดตามคุณ ซึ่ง geek ก็ชอบ มือใหม่ก็ชอบด้วย
มีบางคนเชื่อว่าระบบ microblogging นั้นอาจจะมีผู้เล่นหลายรายได้ เช่นเดียวกับ email แต่ผู้เขียนไม่ได้เชื่อเช่นนั้น
