Proposal Daisakusen : Operation Love

หน้าปก Proposal Daisakusen
หน้าปก Proposal Daisakusen

เพื่อนให้มาเป็นของขวัญน่ะครับ หนังซีรี่ส์ญี่ปุ่นเรื่องปฎิบัติการรักอะไรสักอย่าง (ชื่อไทยแย่จริงๆ) หรือ Proposal Daisakusen : Operation Love ปรากฏว่าเรื่องดีทีเดียว มีการจับจุดของคนที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ และตอนเรียน เนื้อเรื่องนี่ต้องแทงใจดำพวกหนุ่มวิศวะที่แอบรักเพื่อนผู้หญิงในกลุ่ม (ซึ่งมีอยู่น้อยนิด) และมัวแต่รอจังหวะ รอโอกาสบอกรัก ผลัดวันประกันพรุ่ง ถ้าไม่เข้าตาจนหรือมีคนแสดงตัวว่าเค้าจะจีบผู้หญิงคนเดียวกับที่ตนเองรักก็จะไม่เผยความรู้สึกกัน ยิ่งคนที่ให้ผมนี่ยิ่งใช่เลยนะเนี่ยเพราะเท่าที่จำได้คือเค้าเคยชอบเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มผมคนหนึ่งที่น่ารักคล้ายๆนางเอกเลย และแน่นอนว่าปัจจุบันก็ไม่ได้คู่กัน แน่นอนว่าหนังต้องโดนคนส่วนใหญ่ที่มักเป็นเพื่อนกันมานานแต่สุดท้ายผู้หญิงในกลุ่มไปแต่งงานกับคนที่เพิ่งคบกันได้ไม่นาน ผมเองคิดว่าคนเป็นเพื่อนกันมันมีต้นทุนมิตรภาพเป็นเดิมพันในการบอกรัก ส่วนคนใหม่ที่มาจีบไม่มีต้นทุนตรงนั้นทำให้จีบง่ายกว่า

ผมเองก็ไม่ค่อยรู้จักดาราญี่ปุ่นเท่าไหร่แต่น้องบอกว่าพระเอกเป็นนักร้องดัง
ผมเองก็ไม่ค่อยรู้จักดาราญี่ปุ่นเท่าไหร่แต่น้องบอกว่าพระเอกเป็นนักร้องดัง

เนื้อเรื่องเปิดมาเป็นพระเอกอยู่ในงานแต่งงานของนางเอกกับอาจารย์ และพระเอกนึกเสียใจ จากนั้นก็มี”เทพ”ท่าทางๆกวนๆคนหนึ่งมาให้สิทธิในการย้อนเวลาพระเอกกลับไปแก้ไขอดีตที่ทำให้เค้าไม่ได้คู่กับนางเอก โดยหนังใช้ภาพเหตุการณ์บนพรีเซ้นท์แต่งงาน เป็นตัวบอกอีเว้นท์ต่างๆที่พระเอกต้องกลับไปแก้ทั้งสมัยมัธยม มหาวิทยาลัย และตอนจบมาทำงาน เนื้อเรื่องเล่นกับ “กาลเทศะ” ในการบอกรัก (การบอกรักที่ผิดกาลเทศะที่สุดกับให้ผลที่ดีที่สุด) ปรากฏว่าการย้อนกลับไปส่วนใหญ่จะเป็นการทำความเข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและทำให้พระเอกต้องยอมรับผลของมันเสียมากกว่า ทำให้นำไปถึงบทสรุปว่าเรา Focus กับปัจจุบันดีที่สุด และการเสียใจเพราะยังไม่ได้ทำนั้นยิ่งใหญ่กว่าการเสียใจเพราะทำแล้วล้มเหลวมากนัก

พอมาย้อนดูเรื่องนี้ตอบโจทย์ได้หลายอย่าง เรื่องราวของความรักที่มีเนื้อเรื่องคล้ายตัวผมและเพื่อนๆในยุครหัส 38 ก็ไม่ค่อยมีนะครับ หนังรักของไทยรุ่นใหม่ก็ไม่ได้ตอบสนองถึงปรัชญาคำคมและกระทบชีวิตจริงของเราได้เท่านี้เลย ผู้สร้างคงต้องมานั่งลิสต์ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่ค่อยๆห่างไปเมื่อเติบโตขึ้นได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ามันก็ต้องรู้สึกเศร้าเมื่อคนที่เรารักต้องค่อยๆห่างออกไปและมีสังคมใหม่ รวมทั้งมีแฟนใหม่เช่นกัน ฉากที่ทำได้ดีฉากหนึ่งคือเมื่อนางเอกจะแต่งงาน พ่อพระเอกพูดอัดวีดีโอไว้ซึ้งมากในด้านความสัมพันธ์และการพยายามทำความเข้าใจลูก (ซึ่งแน่นอนว่านางเอกบอกไว้ว่าแฟนนางเอกเข้าใจตัวเค้าดี )และตอกย้ำพระเอกที่คิดว่าตัวเองเจอนางเอกมานาน (14 ปี) ยังไม่นานเท่าพ่อนางเอกที่เจอมาตั้งแต่เกิดเลย ตรงจุดนี้หนังไทยไม่สามารถทำได้จริงๆครับ

ประโยคที่ผมชอบในหนังที่เกี่ยวกับความรักและการใช้ชีวิตคู่ก็คือ จงแต่งงานกับคนที่คุณรักเป็นอันดับสอง และอย่าแต่งงานกับคนที่คุณรักสุดหัวใจเลย

ที่ผมชอบประโยคนี้เพราะเห็นว่ามันเป็นความจริงที่เห็นอยู่รอบตัวครับ คนที่เรารักมากๆตั้งแต่วัยเรียนมักไม่เหมาะจะใช้ชีวิตคู่ด้วย แต่เหมาะเอาไว้รักมากกว่า 🙂 อย่างไรก็ตามผมคิดว่าผมได้ทำลายประโยคนี้ลงแล้วล่ะ ^^ และยิ่งทำให้ดีใจภูมิใจมากขึ้นกับอดีตที่ผ่านมาและปัจจุบันที่เป็นอยู่

จุดที่ไม่ชอบจุดเดียวคือตอนจบไม่ค่อย make sense สำหรับผม คือหนังมีสองประเด็นเรื่องการพัฒนาตนเอง กับการทำปัจจุบันให้ดีที่สุดแล้วจะได้ผลอย่างที่ต้องการ แต่ผมว่าถ้าโฟกัสที่การพัฒนาตนเองแล้วทำให้พระเอกไม่สมหวังแต่เติบโตและมีความสุขทุกฝ่ายจะถูกจริตและซึ้งกว่าสำหรับผมนะ เพราะคนส่วนใหญ่มักอกหักจากเพื่อนในกลุ่มอยู่แล้ว และจะเป็นการเน้นคุณค่าของคำว่า ได้ลองทำแล้วแม้ไม่สำเร็จก็ทำให้มีความสุขได้ด้วย

เพลงประกอบ Proposal Daisakusen

ขอบคุณ ดร.พาศ มากครับ 🙂 ใครรู้ที่มาที่ไปเรื่องนี้ดีคอมเม้นท์ได้นะ

ฉากซึ้งๆ Proposal Daisakusen
ฉากซึ้งๆ Proposal Daisakusen